วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557

ตอบคำถาม4ข้อ

Multitasking
     Multitasking คือฟังก์ชั่นที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานแอพฯ ได้หลาย ๆ แอพฯ ในเวลาเดียวกันได้ ถึงแม้เราจะปิดแอพฯ ตัวที่ไม่ได้ใช้งานไปแล้วโดยการกดปุ่ม Home แต่แอพฯ ตัวที่ปิดก็ยังทำงานอยู่ในโหมด Background นั่นเอง หากมีแอพฯ เปิดค้างไว้เยอะ ๆ จะส่งผลเสียหลายอย่าง เช่น ทำให้เครื่องทำงานช้าลง มีอาการหน่วง ๆ และกินแบตเตอรี่เพิ่มขึ้น สำหรับ Multitasking เป็นฟังก์ชั่นที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 4 ขึ้นไป สำหรับวิธีการปิดแอพฯ ที่เปิดค้างไว้ เพื่อช่วยให้ iPhone หรือ iPad ทำงานได้รวดเร็วขึ้นและประหยัดพลังงาน มีขั้นตอนดังต่อไปนี้

ความแตกต่างของซีพียูแต่ละตัวคืออะไร?

หลายคนที่กำลังจะตัดสินใจซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่อาจจะต้องหยุดคิดพิจารณาสักนิดหนึ่งก่อนนะครับ ตามความคิดเห็นของผมนั้น หากคุณต้องการที่จะซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ในช่วงนี้ ผมอยากให้คุณมองถึง CPU รุ่นนี้ พร้อมทั้ง Mainbord,Ram ที่เข้ากับ CPU รุ่นนี้ได้
คำถามต่อมา คุณอาจจะสงสัยว่า แล้ว i3, i5 และ i7 นี้มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ผมจึงขอนำตารางที่สแกนมาจากโบชัวร์ของบริษัท Intel มาให้คุณได้ลองดูไปด้วยกันเลยครับ (ถ้าไม่นับถึงความเร็วของซีพียูนะครับ ใครจะทำซีพียูแพงๆ ความเร็วเท่ากับซีพียูราคาที่ต่ำกว่าล่ะครับ)
สังเกตเส้นสีแดงที่ผมตีกรอบไว้นะครับ ทั้งสามรุ่นนี้ใช้ Socket เดียวกันคือ 1156 ครับ 1. ระบบ Hyper-Threading สิ่งที่่ CPU ตระกูลนี้นำกลับเข้ามาใช้ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ ระบบ Hyper-Threading (ระบบการจำลองชุดคำสั่งแบบคู่ขนาน) ซึ่ง intel เคยนำมาใช้ตอน Pentium 4 ครับโดย
i7 จะมี 4 คอร์ 8 เธรด
i5 จะมี 4 คอร์ 4 เธรด และ 2 คอร์ 4 เธรด
i3 จะมี 2 คอร์ 4 เธรด 2. Cache L3 ระบบ Cache L3 เป็นระบบที่ทำ AMD นำมาใช้ก่อนในซีพียูรุ่นก่อนแล้ว ซึ่ง intel เพิ่งจะนำเข้ามาใช้กับซีพียูตระกูลนี้ัครับ i7 จะมี Cache L3 8 MB
i5 จะมี Cache L3 8 MB และ 4 MB
i3 จะมี Cache L3 4 MB 3. ราคา ซึ่งทาง intel ได้วางตำแหน่งของซีพียูตระกูลนี้ไว้ 3 ระดับด้วยกัน i7 เป็นซีพียูในระดับสูง ราคาจะอยู่ในช่วง 10,000 บาท ขึ้นไป
i5 เป็นซีพียูใน ระดับกลาง ราคาจะอยู่ในช่วง 6,000 – 7,000 บาท
i3 เป็นซีพียูใน ระดับพื้นฐาน ราคาจะอยู่ในช่วง 4,000 – 5,000 บาท

ความแตกต่างของจอภาพแบบ CRT,LCD,LED และ OED

                1.        จอภาพแบบ CRT
จอภาพแบบ CRT มีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก ใช้เนื้อที่วางเยอะ เหมือนจอโทรทัศน์

                 2.   จอภาพแบบ LCD
          จอ LCD เป็นจอแสดงผลแบบ (Digital ) โดยภาพที่ปรากฏขึ้นเกิดจากแสงที่ถูกปล่อยออกมาจากหลอดไฟด้านหลังของจอภาพ (Black Light) ผ่านชั้นกรองแสง (Polarized filter) แล้ววิ่งไปยัง คริสตัลเหลวที่เรียงตัวด้วยกัน 3 เซลล์คือ แสงสีแดง แสงสีเขียวและแสงสีนํ้าเงิน กลายเป็นพิกเซล (Pixel) ที่สว่างสดใสเกิดขึ้น โดย ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า จอ LCD ไม่เหมือนจอแสดงผลธรรมดาLCD ไม่ใช่แก้ว ( แต่ก็มีบางชนิดที่ มีส่วนผสมของแก้ว เพื่อทำให้จอหนาเป็นพิเศษ ทุบไม่แตก ) แต่ทำมาจากฟิล์มอ่อนบางที่เกิดความเสียหายได้จากกระดาษทิชชู่อย่างหยาบ คลอรีนและสารเคมีอื่นๆในน้ำประปา จอเหล่านี้บอบบางมาก ต้องดูแลอย่างดีและเบามือมากๆ

                3.      จอภาพแบบ  LED
  จอ LED ก็คือ การแสดงแสงที่สว่างสดใสมากกว่า มีความคมชัดมากกว่า ทำงานเร็วและประหยัดไฟมากกว่า น้ำหนักเบา       กว่า สามารถมองจากมุมมองด้านต่างๆได้ทั้งสี่ด้านของจอ แม้ว่าจะมองมุมไหน ก็ยังสามารถเห็นภาพที่คมชัดและสมจริง ได้อยู่ดีนั่นเอง

              4.      จอภาพแบบ  OED
จอ OED screen มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ถึง 5 นิ้ว และความละเอียดที่ 960×544 pixel มีระบบ sixaxis มีกล้องหน้าหลัง จอ     แบบสัมผัส และรองรับระบบ 3G


            Flash Drive มีชื่อจริงว่า USB Mass Storage Device ส่วนใหญ่เรียกกันว่า USB Flash Memory Drive , USB Flash Drive Memoryหรือ USB Flash Drive การใช้งานเชื่อมต่อกับ Computer ผ่านทาง Port USB    ใช้ Flash Memory เก็บข้อมูล ทำงานเป็น Drive เหมือนHardDisk อ่านและบันทึกข้อมูลได้อย่างเดียวไม่สามารถทำอย่างอื่นได้ ซึ่งเป็นยุคต่อมาจาก Thumb drives  ราคาถูกลง ความจุมีมากขึ้น ขนาดของตัว Flash Drive เล็กลงด้วย บางยี่ห้อมีขนาดประมาณ 1 นิ้ว
ที่มาคำว่า Thumb drive
            Thumb drive เป็นชื่อทางการค้า คุณสมบัติเหมือน   CD-R,   Floppy Disk,   Hard Disk เป็นหน่วยความจำ ที่เสริมเข้าไปในคอมพิวเตอร์ทาง Port USB และถือเป็นการเก็บข้อมูลรูปแบบใหม่ คือไม่ ต้องมีตัว Drive ตัว Disk พกพาได้สะดวกมีขนาดเล็กเท่ากับหัวแม่มือ เป็นยุคแรกๆ ของอุปกรณ์จำพวก Flash Drive ความเร็วในการอ่าน เขียน ประมาณ 500KB/Sec มีความจุอยู่ระหว่าง 8 MB –1024MB ในปัจจุบันอาจมีมากขึ้น สำหรับราคาในยุคแรกๆ ราคาสูง ขนาดความจุน้อย
ที่มาคำว่า Handy drive
            Handy drive เป็นชื่อทางการค้า คุณสมบัติและการทำงานเหมือน Flash drive แต่ที่เพิ่มขึ้นมาคือสามารถเล่นไฟล์ Mp3 ไฟล์วีดีโอ ไฟล์รูปภาพ ฟังวิทยุผ่านช่องเสียบหูฟัง และฟังก์ชันอื่นๆ ที่ผู้ผลิตจะใส่  ลงไป ใช้แบตเตอรี่มีทั้งแบบใช้ถ่าน AA , AAA หรือถ่านชาตร์ ซึ่งจะชาตร์ถ่านผ่านทาง Port USB รูปลักษณ์สวยงาม แต่มีขนาดใหญ่กว่า Flash drive เนื่องจากต้องใช้แบตเตอรี่ สำหรับราคาแพงกว่าFlash drive อยู่บ้างเหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้งานที่หลากหลาย
http://iphonesociety.com/tips/multitasking

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น